โดยทางรัฐบาลจะเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการได้ในวันนี้ คือ วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2563 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป และจะเปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ผู้ที่เข้าเกณฑ์ได้รับเงินเยียวยา ต้องเข้าหลักเกณฑ์ดังนี้
- สัญชาติไทย และอายุ 18 ปีขึ้นไป
- แรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ
- ผู้ไม่อยู่ในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33
- ผู้ที่ได้รับผลกระทบ COVID-19
โดยผู้ที่ต้องการลงทะเบียน จะต้องเตรียมหลักฐานให้พร้อมเพื่อลงทะเบียน ดังนี้
- บัตรประจำตัวประชาชน
- ข้อมูลส่วนบุคคล
- ข้อมูลการประกอบอาชีพ
- ข้อมูลนายจ้าง (กรณีมีนายจ้าง)
โดยอย่างที่ย้ำกันหลายครั้งในเรื่องการรับเงิน นั่นคือ ผู้เข้าร่วมโครงการ ไม่จำเป็นต้องไปมีบัญชีของธนาคารรัฐ ไม่จำเป็นต้องมีบัญชีพร้อมเพย์ เพียงขอให้มีบัญชีเงินฝากที่เป็น ชื่อนามสกุล ตรงกันกับผู้ยื่นคำร้องก็สามารถแจ้งขอรับสิทธิ์ได้แล้ว
จากข้อมูลเบื้องต้น* เริ่มจากการกรอกข้อมูลส่วนตัว ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อ รวมถึงช่องทางการรับเงิน โดยถ้าเป็นพร้อมเพย์ ก็ขอให้เป็นพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน
เมื่อมาถึงในส่วนของอาชีพนั้น ถ้ามีนายจ้าง ก็ให้เตรียมข้อมูลชื่อบริษัท หรือสถานประกอบการนั้นๆ พร้อมที่อยู่บริษัทไว้ให้พร้อม
แต่สำหรับใครที่ประกอบอาชีพอิสระ ไม่มีนายจ้าง ก็ต้องเตรียมคำตอบสำหรับอธิบายเพื่อยืนยันว่า ตนเองได้รับผลกระทบจริง หรือขาดรายได้จากวิกฤติโควิด-19 อย่างไร
จากนั้นก็ทำตามขั้นตอน เพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูลจนเสร็จสิ้นกระบวนการ
ข่าวดี คือ โครงการเยียวยา 5,000 บาท (3 เดือน) เพื่อผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 นี้ ไม่จำกัดจำนวนสิทธิ์ต่อวัน และเปิดให้ลงทะเบียนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ฉะนั้น ใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบร้อน ขอให้เตรียมเอกสารให้ครบ ตรวจสอบความถูกต้องให้ดีก่อน จะได้ไม่เสียเวลา เริ่มต้นใหม่
หลังจากทำการกรอกข้อมูลผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com(คลิกที่นี่) เรียบร้อยแล้ว ระบบจะแจ้งผลการลงทะเบียนและสิทธิ์ตามมาตรการทาง SMS ตามเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ให้ไว้ หรือทางไปรษณีย์ลงทะเบียนในกรณีที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือ
ในส่วนของการรับเงินเยียวยา สามารถรับได้ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ ทางบัญชีพร้อมเพย์ของธนาคารใดก็ได้ที่ผูกกับเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัญชีธนาคารใดก็ได้ที่มีอยู่เดิมโดยที่ชื่อและนามสกุลเจ้าของบัญชีต้องตรงกับชื่อและนามสกุลที่นำมาลงทะเบียน ดังนั้นจึงขอย้ำว่า ไม่จำเป็นต้องไปเปิดบัญชีใหม่ที่สาขา
โดยผู้ที่ลงทะเบียนและผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดทุกท่านจะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 5,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยระบบจะจ่ายเงินเยียวยาเข้าบัญชีอย่างเร็วที่สุดภายใน 7 วันทำการ