QUOTE 

เทคนิคการอ่านหนังสือแบบนักเรียนญี่ปุ่น

เจ้าของร้าน

                                                        เทคนิคการอ่านหนังสือแบบนักเรียนญี่ปุ่น

ดิฉันเพิ่งผ่านฤดูมรสุมในการสอบมาค่ะ เลยอยากแบ่งปันวิธีการอ่านหนังสือแบบคนญี่ปุ่นดูเพราะตั้งแต่ดิฉันมาเรียนที่ญี่ปุ่น ก็สังเกตได้ว่านักเรียนญี่ปุ่นมีเทคนิคการอ่านหนังสือที่น่าสนใจที่เด็กไทยอย่างเราสามารถนำไปปรับใช้ได้ไม่มากก็น้อย บางอย่างอาจจะยากไปในตอนแรกๆแต่พอลองทำดูก็ได้ผลกับคนขี้เกียจอย่างเราเหมือนกันนะ ไปลองดูกันเลย

 

มีสมาธิจดจ่อ ทำอะไรทำทีละอย่าง

เชื่อว่าอาการนี้ใครหลายๆคนในยุคนี้ก็เป็นกัน นั่นคือ ไม่สามารถทำอะไรทีละอย่างได้ กระวนกระวายตอนที่มือถือห่างตัว ต้องทำนู่นทำนี่ไปด้วยหลายอย่างแม้กระทั่งตอนที่ต้องใช้สมาธิอย่างเวลาอ่านหนังสือ ดิฉันคนหนึ่งละที่ติดนิสัยอ่านหนังสือไปด้วยเล่นมือถือไปด้วย เดี๋ยวตอบแชท เช็คเมล์ หาข้อมูลนู่นนี่ไปด้วย ซึ่งถามว่าเป็นสิ่งดีมั้ย คงไม่แน่ๆ ชีวิตที่มีการ Multitasking มากเกินไปอาจจะดูเหมือนเป็นคนเก่ง แต่หลายคนก็ไม่ได้ทำทุกงานออกมาดีนะในเวลาที่ Multitask แถมแย่สุดๆคือบางทีทำไม่เสร็จสักอย่างด้วย ซึ่งวิธีแก้ก็คือการทำอะไรแค่ทีละอย่างนั่นเอง รับรองว่าถ้าทำได้ชีวิตจะดีขึ้นเยอะ 

แต่ในยุคสมัยที่มีสิ่งล่อใจมากมายอยู่แค่ปลายนิ้ว พูดง่ายกว่าทำเยอะ เราจะทำยังไงล่ะ เพื่อนชาวญี่ปุ่นของดิฉันมีไอเดียดีๆ เช่นการตั้งกฎกับตัวเองว่าจะปิดมือถือหรือเปิดโหมดเครื่องบินเวลาอ่านหนังสือ เพื่อจะได้ไม่วอกแวก มีสมาธิมากขึ้น หากอยากค้นหาข้อมูลในเน็ต ก็จะลิสต์ไว้ แล้วเอามาหาทีเดียว จะไม่เปิดเน็ตค้างเอาไว้ ถือเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม ลองทำดูนะ

อ่านทีละนิดแต่หนักแน่น

คนญี่ปุ่นเชื่อว่าคนเราจะมีสมาธิได้อย่างมากก็ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยอมรับกันทั่วไปในญี่ปุ่น สังเกตได้จากแต่ละคลาสแทบทั้งหมดในมหาวิทยาลัยจะมีระยะเวลาเพียง 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ถ้าเทียบกับมหาลัยไทยละก็บางที่มีคาบที่ปาไป 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว เรียนกันยาวไป ดังนั้นคนญี่ปุ่นจะใจจดใจจ่อกับการอ่านให้เต็มที่แต่จะใช้เวลาไม่นานในแต่ละครั้ง

ใครว่ายากเกินไปให้ลองทีละ 15 นาที ซึ่ง 15 นาทีแรกเป็นเวลาวัดใจ ถ้าทำได้ละก็อีก 15 นาทีต่อมาก็จะง่ายขึ้น ทำต่อไปจนค่อยๆครบ 1 ชั่วโมงในที่สุด และอย่าลืมเทคนิคการทำทีละอย่างที่บอกไปข้างต้นนะ

อ่านสารบัญก่อน

ก่อนจะอ่านหนังสือสักเล่มให้เราอ่านที่สารบัญก่อนเข้าโหมดอ่านจริงจัง เพราะจะได้รู้ว่าหนังสือเล่มนี้เขียนถึงอะไรบ้าง ว่าง่ายๆก็เหมือนเรากำลังจีบใครอยู่ เราก็ต้องอยากรู้ข้อมูลพื้นฐานของเขาและเธอ เช่น ชื่ออะไร เป็นคนที่ไหน มีแฟนหรือยังและมีพื้นเพเป็นคนอย่างไร พอเทียบเป็นเรื่องแฟนแล้วเข้าใจได้ทันทีเลยใช่มั้ยล่ะว่าทำไมต้องอ่านสารบัญ

การอ่านสารบัญก็จะทำให้เราเข้าใจรายละเอียดคร่าวๆ ช่วยให้เราจับใจความได้ว่าเนื้อหาที่สำคัญมีอะไรบ้างและช่วยให้คุ้นเคยกับเนื้อหาได้ง่ายขึ้น

อ่านล่วงหน้าและทบทวนย้อนหลัง

ญี่ปุ่นมีคอนเซ็ปท์ที่เรียกว่า โยะชู-ฟุคุชู (予習復習) ในกรณีของนักเรียนอย่างเราๆ คำว่าโยะชู หมายถึงการอ่านเตรียมมาก่อนเข้าเรียน ส่วนฟุคุชู หมายถึงการทบทวนสิ่งที่เรียนแล้วอีกครั้ง สำหรับการทบทวนหรือฟุคุชู นั้นนักเรียนไทยส่วนใหญ่ทำกันอยู่แล้ว แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือโยะชู ค่ะ เพราะเป็นอะไรที่เราไม่เคยนึกถึงมาก่อน

จริงๆไม่เฉพาะแต่คนญี่ปุ่นเท่านั้นที่มักจะอ่านหนังสือล่วงหน้าก่อนเข้าคลาส เท่าที่ดิฉันสังเกตนักเรียนฝรั่งหลายคนก็ติดนิสัยอ่านหนังสือล่วงหน้ามาก่อนเข้าคลาสเช่นกัน สรุปว่าทำกันทั้งโลกค่ะแต่คนไทยตั้งแต่ไหนแต่ไรมักให้ครูสอนก่อนทีนึงแล้วค่อยกลับไปอ่านซ้ำหลังคลาสอย่างเดียว ซึ่งคงไม่ได้ผลเท่ากับอ่านทั้งก่อนและหลังคลาสค่ะ

สำหรับข้อดีนั้น การอ่านมาก่อนทำให้เข้าใจเนื้อหาได้ถูกต้องมากขึ้น และยังกระตุ้นให้เราเกิดความสงสัย เกิดการตั้งคำถามในสิ่งที่อ่านมา เหมือนเวลาเราอ่านรีวิวร้านอาหารในเน็ตก่อนมาลองกินจริงๆไงล่ะ แล้วพอเวลามาที่ร้านจริงๆเราก็มักจะตั้งข้อสงสัยได้ว่า เอ๊ะทำไมไม่เหมือนในรีวิว แบบนี้เคยเป็นกันทุกคนใช่มั้ยล่า การอ่านมาก่อนจะทำให้เราฉุกคิดและสามารถตั้งถามคำถามกับอาจารย์ได้ในคลาส ประหยัดเวลาในการทำความเข้าใจไปอีกด้วย เป็นวิธีเรียนที่ไม่ยากแต่มีเหตุผลมากๆเลยนะ

ตั้งสมมติฐานไว้ก่อนว่า "หนังสือไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด"

เวลาอ่านหนังสือให้ตั้งสมมติฐานกับตัวเองไว้ก่อนเลยว่า แม้ข้อมูลจะเขียนไว้ในหนังสือแต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่างจะถูกต้องเสมอไป วิธีการคิดแบบนี้ ทำให้เรา "ตื่น" ค่ะ เพราะสมองจะทำงานตลอดเวลา ไม่ใช่เพียงอ่านข้ามไปข้ามมาแล้วก็ลืม เปรียบเทียบกันง่ายๆวิธีการอ่านหนังสือโดยตั้งสมมติฐานก็เหมือนเวลาที่เพื่อนสาวโสดคนสนิทลงรูปเค้กน่ารักๆแต่(แอบ)ถ่ายติดนาฬิกาข้อมือของชายหนุ่มนิรนามมาด้วย สมองของเราจะสั่งการทันทีว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ แล้วเราก็ค้นหาความจริงไปไม่หยุดยั้ง...เช่นกันกับเทคนิคการตั้งสมมติฐาน... 

ถ้าอ่านหนังสือได้แบบนี้รับรองไม่เบื่อและจำได้ทุกรายละเอียดแน่นอน

แผ่นพลาสติกสีแดง สำหรับปิดคำ ท่องจำ

ญี่ปุ่นเป็นประเทศแห่งเครื่องเขียน ดังนั้นอุปกรณ์ที่จะช่วยให้เราอ่านหนังสือได้ดีขึ้นจึงมีเยอะมากๆ หนึ่งในนั้นคือการใช้แผ่นพลาสติกสีแดงที่นักเรียนญี่ปุ่นฮิตกันมาก ไม่ว่าจะเด็กประถมหรือนักศึกษาก็ชอบใช้กันทั้งนั้น วิธีการใช้ก็ง่ายๆ เพียงแค่ใช้ปากกาเน้นข้อความสีเขียวหรือแดงบนตัวหนังสือส่วนที่เราต้องการท่องจำ (หรือถ้าเขียนโน้ตเอง ให้เขียนข้อความที่ต้องการจำด้วยปากกาสีแดง) แล้วเวลาเราจะกลับมาท่อง ก็เพียงใช้แผ่นพลาสติกสีแดงปิด ทีนี้เราก็จะมองไม่เห็นข้อความนั้นๆ เหมือนเป็นการเล่นเกม ชวนให้เราคิด สนุกแถมทำให้จำได้ง่ายอีกด้วย

การ์ดจำคำศัพท์

อีกหนึ่งอย่างคือการ์ดคำศัพท์หรือแฟลชการ์ด เป็นกระดาษเล็กๆนำมาร้อยด้วยห่วง ขนาดพอดีมือ อ่านได้แม้กระทั่งในรถไฟเบียดๆ เวลาคนญี่ปุ่นเรียนภาษาต่างประเทศอันนี้จะฮิตมากๆ โดยเฉพาะกับคำศัพท์ ด้านหน้าเขียนคำศัพท์ ด้านหลังก็เขียนความหมายหรือตัวอย่างวิธีใช้ รอรถไฟไปก็หยิบมาเดาคำศัพท์ แฟลชการ์ดนี้มีขายอยู่มากมายทั้งตามร้านเครื่องเขียนทั่วไปหรือร้านร้อยเยนก็หาได้ไม่ยาก ในไทยเองก็มีนะ

 

แอพช่วยเรียน

ส่วนใครที่อยากจะเข้มงวดกับตัวเองขึ้นมาหน่อย ตอนนี้มีแอพมากมายที่มีไว้บันทึกความคืบหน้าในการอ่านหนังสือของตัวเอง 

เช่นแอปพลิเคชั่นในภาพที่ชื่อว่า 目標達成タイマー (Mokuhyo-tassei Timer) สามารถบันทึกจำนวนชั่วโมงการอ่านหนังสือแต่ละวิชาในแต่ละวัน แสดงออกมาเป็นกราฟเข้าใจง่าย เหมาะมากกับคนที่ต้องการบริหารเวลา ดูว่าวิชาไหนเราใช้เวลาในการอ่านมากน้อยเป็นต้น ใครกำลังเตรียมสอบแบบเอาจริงเอาจังหรือจะเอาไว้แข่งอ่านหนังสือกับเพื่อน แบบนี้ก็สะดวกและสนุกไปอีกแบบนะเออ~ แน่นอนว่าเราไม่ต้องใช้แอพนี้ก็ได้ ยังมี Study App อื่นๆที่ทำหน้าที่คล้ายๆกันแต่เป็นภาษาอังกฤษนะคะ หลายคนอาจจะคิดว่าแอพและสมาร์ทโฟนทำให้เราไม่สามารถจดจ่อกับการเรียนได้ แต่วิธีใช้ที่ดีก็มีค่ะ ลองดูนะ

แปลงโซเชียลเป็นแรงบันดาลใจ

ในเมื่อติดโซเชียลกันทุกคนแล้ว ก็ลองใช้มันให้เป็นประโยชน์สิ! 

เดี๋ยวนี้ตาม IG มีคนที่กำลังเตรียมตัวสอบ ที่คอยโพสต์ความคืบหน้าว่าแต่ละวันอ่านไปได้ถึงไหน วันนี้อ่านไปกี่ชั่วโมง มีการรีวิวหนังสือ เทคนิคต่างๆ บางคนถ้าฝีมือดีก็ทำโน้ตสรุปเป็นภาพน่ารักๆโพสต์ลงโซเชียล (แบบตัวอย่างข้างบน) หรือแม้กระทั่งรีวิวเครื่องเขียน อุปกรณ์ช่วยในการอ่านหนังสือก็มี ตอนนี้เริ่มมีนักเรียนญี่ปุ่นหันมาอัพเรื่องราวการเตรียมสอบเพิ่มมากขึ้น ได้อ่านเรื่องราวพวกเขาก็ช่วยให้เรารู้สึกมีแรงบันดาลใจ รู้สึกมีเพื่อนที่เตรียมสอบเหมือนกัน หรือใครที่อัพเองก็เป็นการสร้างกำลังใจที่ดีไปอีกแบบ ใครสนใจก็ลองเสิร์ชหาโดยแทก #studygram หรือ #勉強垢 ในอินสตาแกรมได้เลยจ้า

สรุป

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับวิธีการอ่านหนังสือแบบเด็กนักเรียนญี่ปุ่น อาจเหมือนบ้างต่างบ้างกับบ้านเรา แต่ที่เห็นได้ชัดเจน คือความตั้งใจจริง ดิฉันเชื่อว่าถ้ามีแรงใจเต็มร้อยใครจะสมองดีหรือไม่ดียังไงก็สามารถฝ่าฟันกับอุปสรรคในการเรียนไปได้สบายๆ อย่าลืมหยิบเอาเทคนิคไปลองใช้กันดูนะคะ

ขอบคุณที่มา sanook.com

แสดงความคิดเห็นที่ 0-0 จากทั้งหมด 0 ความคิดเห็น

หมวดหมู่สินค้า

MEMBER ZONE

OVERVIEW

หน้าที่เข้าชม605,193 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด455,322 ครั้ง
เปิดร้าน2 พ.ย. 2562
ร้านค้าอัพเดท30 ส.ค. 2568

CONTACT US

0863116798
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านหนังสือเตรียมสอบข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ทุกหน่วยงาน
หนังสือเตรียมสอบข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ทุกหน่วยงาน
จำหน่ายแนวข้อสอบราชการ รัฐวิสาหกิจ ครูผู้ช่วย ท้องถิ่นและทุกหน่วยงานราชการ รวบรวมจากทีมงานวิชาการมืออาชีพ ซึ่งมีประสบการณ์มามากกว่า 20 ปี
เบอร์โทร : 0863116798
อีเมล : kotchakornnoon999@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม